วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563

ณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง เด็กอัจฉริยะ ที่ถูก... "BULLY"!!!

***** ***** *****
สหายพล ณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง
เด็กอัจริยะ ที่ถูก
BULLY!!!
***** ***** *****
กระผม เป็นเด็กออทิสติก เด็กปัญาอ่อน บ้าบอ ติงต๊อง
ขี้ดื้อ และ ไร้สาระ แต่ก็ไร้สาระพอที่จะเรียนรู้ได้หลายภาษา
ทั้งไทยปัจจุบัน ไทยพ่อขุนราม(ลายสือไทย) พาสาลาว
เพียซาขะแมร์ เตี้ยงเวียต ฮันกุกออ ฟร็องเซ่ส์ นิฮงโกะ
และ อื่นๆ ดูสิ เยอะขนาดนี้ ยังถูกบุลลี่ได้ง่ายๆ
สมัยเรียนประถม จนมัธยมต้น ณ โรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์
ถูกเพื่อนๆบุลลี่ใส่เรา ทั้งล้อด่า ชกต่อย เตะก้น รวมทั้ง ขากถุย
น้ำลายใส่ อยากแก้แค้น แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่เก็บกด
จนเมื่อเราได้เรียนภาษา จนเข้าขั้นอัจฉริยะ ยังไม่วายถูกเพื่อนๆ
เหยียดสี หาว่า อ่านมั่วมั่ง อ่านฟังไม่รู้เรื่องมั่ง เป็นต่างด้าวมั่ง
เป็นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์กรุงล้านช้าง
ศรีสัตนาคนหุตกลับชาติมาเกิดมั่ง(อันนี้ เวอร์ไปโลด) 
ที่สำคัญนะ เราเป็นคนเดียวในโรงเรียน ที่เขียนได้หลายภาษา
เช่น ພາສາລາວ ភាសាខ្មែរ Tiếng Việt 한국어 조선어
และ อื่นๆ แต่ก็ยังสบประมาท ถูกบุลลี่อยู่ร่ำไป จนเมื่อเรียนจบ
จากโรงเรียนเก่า เพื่อใช้ชีวิตปกติเยี่ยงชาวบ้าน ก็ปรากฏว่า
ที่โรงเรียน มีเด็กสองคนมีชื่อเสียงโด่งดัง จากข่าว
ธรรมะบีทบ๊อก ในขณะที่เราต้องดิ้นรนสร้างชื่อเสียงเอง
แต่สุดท้าย กลายเป็นดาวดับไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงานสงกรานต์ประจำปี2560 ณ วัด
พลงตาเอี่ยม อดีต อาจารย์จีรศักดิ์ สุขแก้ว และ อดีต
ผอ.วรมน รัตนจีน แห่ง กศน.อำเภอวังจันทร์ ได้เห็นแวว
ของฉัน จึงชักชวนให้เข้าเรียน กศน.ตำบลพลงตาเอี่ยม
โดยรับปากให้สัญญาว่า หากเรียนจบ จักรับเข้าทำงานเป็น
ครูสอนภาษา โอะโฮะ!อ้อยเข้าปากช้างชัด จึงไม่ลังเลรับคำ
พอเข้าเรียนวันแรก เจอดีเลย โดยนักศึกษารุ่นพี่รับน้องเข้าให้
โดนลองภูมิบ้าง พอนึกคำศัพท์ที่ให้แปลไม่ได้ก็ด่าเสียๆหายๆ
อภิโถ!ตรูเรียนอ่าน เรียนเขียน แต่แปลได้เฉพาะ ลาว-ขะแมร์
เท่านั้นเหวย!ภาษาอื่น ยังแปลไม่ได้ 100%ดอกหนาสู!!!
จนกระทั่งวันตะวันฉายแสงส่องมา ในวันไหว้ครู เราได้เป็น
ตัวแทนนักศึกษาชาย ถือพานพุ่ม และ ในวันนั้นเอง ที่เราได็รู้จัก
กับสหายตาลเข้ม ชลชินี สมัครสยาม เพื่อนที่อยู่สันโดษ
มีวลีติดปาก คือ "เบื่อ!" เราได้ทำกิจกรรมร่วมกันมาโดยตลอด
แต่สหายตาลกลับไม่ค่อยมาเรียนบ่อยเท่าใดนัก มาทีก็โน่น
วันสอบปลายภาค แถมได้สอบห้องเดียวกันอีก เราเลยถือว่า
สหายตาลเข้มเป็นตัวนำโชค เพราะเราไม่ต้องเสียเวลาหาห้องสอบ
เอง เราคอยจับตามองว่า สหายตาลเข้ม จะสอบห้องไหน เราก็ตาม
ต้อยๆเหมือนลูกเป็ดตามแม่ ทำให้สหายตาลเข้ม จากที่สนิทสนม
กลายมาเป็น 'รำคาญ'ไปในที่สุด จนออกปากด่าเราว่า
"ตรูเบื่อเมิงมาก รำคายเฟ้ย" ความสัมพันธ์จึงสะบั้นลง
กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันไปในที่สุด
เมื่อจบจากอดีตสหายตาลเข้ม ก็มาต่อกันที่สหายคนใหม่อีกคนหนึ่ง
ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ชื่อ สหายฟ้า กนกพร นามแสน รายนี่ดันปากโป้ง
ว่า เราหมิ่นเบื้องสูง หมิ่นธงชาติไทย(เพราะขณะนั้น เราถูกเพื่อน
ร่วมสถาบัน BULLY จนต้องหาวิธีประชดประชัน) แต่สุดท้าย
เรากับสหายฟ้า ก็ปรับความเข้าใจกันได้ และ มิตรภาพยืนยาวกว่า
ตอนรู้จักสหายตาลเข้ม ชลชินี สมัครสยามเสียอีก
แต่สุดท้ายก็สะบั้นอีก เพราะทัศนคติทางการเมืองต่างกัน!!!
เล่าเรื่องอดีตสหายคนสนิทมาก็เยอะแล้ว ขอเล่าเรื่องที่ถูก
BULLY ต่อล่ะกัน.....
สมัยก่อน เรามักถูกเพื่อนๆที่เป็นเพื่อนร่วมชาติกลั่นแกล้ง รังแก
มาโดยตลอด ทำให้เรารู้สึกเกลียดชังคนไทยแทบทุกคน
(ที่ไม่ใช่ญาติเรา) อยากระเบิดความรู้สึกข้างในว่า อยากจะแก้แค้น
สิ่งที่อยากจะแก้แค้นให้ถึงที่สุด คือ อยากปลุกระดมเพื่อนๆ
ชาวกัมพูชาที่บอบช้ำจากคนไทย ให้ไปเผาสถานทูตไทย
เป็นคำรบสอง อยากบุลลี่เรานัก เดี๋ยวเราจะบุลลี่กันระดับชาติ
กันไปเลย สะใจดี นี่คือการแก้แค้นอย่างสาสมที่สุด
เอาให้ตายกันไปข้างหนึ่งกันไปเลย!!!
เราเรียนภาษามา เพราะเป็นความชอบส่วนบุคคล ไม่ไป
เกะกะระรานใคร แต่กลับถูกคนไทยบุลลี่ใส่เรา นี่เรายังเป็น
เพื่อนร่วมชาติกันอยู่หรือเปล่า ถ้าสมมติเราเป็นเขมร
เราอยากจะเผาสถานทูตไทยสักร้อยหนพันหน
พร้อมพรักด้วย เพื่อนเขมรผู้รักชาติ รักแผ่นดิน
หมาต๋าจะกัด โปลิศจะเฆี่ยน เราไม่กลัว เพราะเราเจ็บปวด
เพราะคนไทยมามากพอแล้ว
นี่คือ สภาพของพวกที่ชอบเหยียดสีผิว เหยียดชนชาติ
กลั่นแกล้งเราสารพัด เราตอบสนองให้มันแล้ว
สะใจดีจริง อยากบุลลี่เราระดับบุคคล เราก็บุลลี่กลับ
ระดับประเทศ เอาให้ไอ้พวกเสียมก๊กเงิบกันไปเลย
สะใจดีแท้เหลา..... BULLY จงพินาศ!!!

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2563

The Kambujadhibody Communist Adhipataiya Government

***** ***** *****
รัฐบาลพลัดถิ่น กรรมุนิษฐาธิปไตย
กัมพูชาธิบดี
[เปิดอ่านได้]
รัฐบาลพลัดถิ่นสำหรับแรงงานกัมพูชาที่ถูกคนไทย
BULLY ซ้ำซาก รังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงอยากปลดแอก
ให้เกิดความเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นรัฐบาลพลัดถิ่น
แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านรัฐบาลกลางของประเทศไหนๆ เราให้ความ
ร่วมมือกับเจ้าของประเทศเป็นอย่างดี หากแต่เพื่อต่อต้าน
การกลั่นแกล้ง BULLY BULLY BULLY จากคนไทย ในฐานะ
เจ้าถิ่นที่ให้ที่อยู่ที่กินแก่แรงงานกัมพูชา ซึ่งยากจน ไม่รู้หนังสือ
ไม่เข้าถึงสาธารณสุข ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ เพราะกลัว
หมาต๋าจะงาบไปแทะในตะราง ก่อนส่งเนรเทศไปตายรัง
เราขอต่อต้านการเหยียดชนชาติ BULLY ทุกชนิด

อนึ่ง การจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นนี้ ก็เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงาน

กิจกรรมของแรงงานกัมพูชาโพ้นทะเลที่อยากมีคุณภาพชีวิต
ที่ดี ทำงานแลกเงิน แลกข้าวกินไปวันๆ ถึงแม้ชาวกัมพูชาจะไม่
มีสิทธิ์ ไม่มีเสียง ในตนเอง ก็ขอให้ได้มีจุดศูนย์รวมจิตใจ
ของชาวแรงงานขะแมร์บ้าง ไม่มากก็น้อย

BULLY จงพินาศ!!!
ไม่มีการเหยียดชนชาติ ต้องไม่มี
"BULLY"!!!!!

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ความในใจของเด็กออทิสติก เด็กปัญญาอ่อน ณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง

<<Nhaddhakit.2020.Blogger@gmail.com>>
***** ***** *****
ความในใจของเด็กออทิสติก เด็กปัญญาอ่อน
ณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง
(ปราชญ์หลากภาษา)
***** ***** *****
ข้าพเจ้า นายณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง เป็นชาวอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง
โดยกำเนิด เป็นผู้ป่วยออทิสติกคนๆหนึ่งเท่านั้น แต่ข้าพเจ้ามีความ
สามารถพิเศษ สามารถอ่านออกเขียนได้หลายภาษา โดยเรียนมา
ตั้งแต่สมัยเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์ ทั้งที่มีความสามารถ
พิเศษมาตั้งแต่เด็ก กลับไม่มีใครส่งเสริม สนับสนุน ฤๅ ต่อยอดเลย
เวลาผ่านไปหลายปี โรงเรียนดังกล่าวได้ปั้นเด็กสองคน ให้มีชื่อ
เสียงโด่งดังไปทั่วโลก เป็นที่มาของคำว่า ธรรมะบีทบ๊อก ในขณะนั้น
ข้าพเจ้าได้เรียนจบจากโรงเรียนนั้นหลายปีแล้ว จึงไม่มีโอกาสได้
เฉิดฉายเลยสักครั้ง ได้แต่แสดงปาหี่ให้คนอ้อมข้างได้เห็นแวว
ของข้าพเจ้าบ้าง แต่ไม่มีใครเห็นแววนั้นเลย โหลยโท่ยที่สุด
***** ***** *****
ตั้งแต่ปี2004/2547 ข้าพเจ้าได้ฝึกถอดอักษรลายสือไทยของ
พ่อขุนรามคำแหง สามารถอ่านภาษาพ่อขุนรามได้หลายคำ
เช่น ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ใครจักใคร่ค้าช้าง ค้า ใครจัก
ใคร่ค้าม้า ค้า ก่อนจะต่อยอดด้วยการฝึกเรียนพาสาลาวในปี
2005/2548 จากกการอ่านเอกสารกำกับยา ไฮเป็กซ์ โบเก้
ทำให้เป็นนักเรียนเพียงคนเดียวของโรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์
ที่สามารถอ่านเขียนพาสาลาวได้ แต่ก็ยังไม่มีใครเห็นแวว
เขาหาว่า เราปัญญาอ่อนเกินไป ไม่เชื่อหรอกว่า จะอ่านออก
ອ້າວ!ຈັ່ງຊີ້ມັນເວົ້າໝາໆໃສ່ຂ້ອຍຄັກໆເດີ້(แปลว่า อ้าว!ยังงี้มัน
พูดหมาๆใส่เรานี่นา) แต่ก็ทำไงได้ เราก็เป็นออทิสติกนี่นา
***** ***** *****
ต่อมา ปี2008/2551 เราก็เริ่มฝึกเรียนភាសាខ្មែរ(ภาษาเขมร)
โดยพัฒนามาจากการฝึกหัดอ่านអក្សរខម(อักขระขอม)
ในผ้ายันต์ก่อนหน้านั้น และ ให้ถือว่า คำว่า នមោពុទ្ធាយ
(นะโมพุทธายะ)เป็นประโยคแรกสุดที่ได้เรียนภาษาเขมร
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีเพื่อนหลายคนที่ดูถูกเหยียดหยามใน
ความสามารถพิเศษนี้ ถึงขนาดด่าว่า ไอ้เขมรบ้า!!!!!
เป็นการดูถูกที่แทงใจดำที่สุด ดูถูกข้าพเจ้าได้ แต่อย่า
ดูถูกภาษาที่เรียน เพราะคนไทยบางคนมีหนี้บุญคุณกับ
อักษรเขมร เพราะถ้าไม่มีตัวอักษรขอม พระพุทธศาสนาถึง
ไม่ได้รุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยก่อน ทุกวันนี้ พระสงฆ์องค์เจ้า
หลายรูปก็เขียนอักขระขอมไม่ได้แล้ว ถึงเขียนได้ ก็เขียนแบบผิดๆ
เช่น คำว่า ន ជា លី តិ(นะชาลีติ) พระสงฆ์ไทยก็เขียนผิดเป็น
ន ថា លី ពិ ซึ่งแม้แต่พระวัดกระทิง เขาคิชฌกูฏ ที่ว่ากันว่า
ศักดิ์สิทธิ์นัก ศักดิ์สิทธิ์หนา ยังเขียน นะชาลีติ เป็น นะถาลีพิเลย
แสดงว่า พระสงฆ์ไทยไม่เคยได้รับการเรียนอักขระขอมอย่างถูก
ต้องเลย ท่านเหล่านั้นต่างมองข้ามอักขระขอมจนเขียนเพี้ยนไป
หมด ที่ว่านี้ ไม่มีเจตนาลบหลู่พระสงฆ์องค์เจ้าหรอกนะ หากแต่
อยากให้ตระหนักถึงการใช้ภาษาที่ถูกต้องบ้าง อย่าละเลย
***** ***** *****
หลังจากอดทนถูกเพื่อนร่วมสถาบันโขกสับ ลบหลู่ภาษาเขมร
มานานหลายปี ในที่สุด ก็เรียนจบจากโรงเรียนดังกล่าว
และ ในปี2010/2553 ก็เริ่มพัฒนาขีดความสามารถ
ด้วยการเรียนภาษาญวน(Tiếng Việt)เพิ่มเติม
ทำให้เขียนภาษาญวนได้หลายคำ เช่น Xin Chào Bạn Thân
(สวัสดีเพื่อนๆ) Tôi Yêu Em(ฉันรักเธอ) Nhất Đa Kit
Giồ Xây Ý Ngữ(ณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง) เป็นต้น
***** ***** *****
ในปี2013/2556 เรียนภาษาเกาหลีเหนือ ฝรั่งเศส ม้ง รัสเซีย
เมียนม่าร์ แต่โดยรวมแล้ว ถนัดภาษาเกาหลีเหนือที่สุด
ปี2014/2557 เรียนภาษาญี่ปุ่น อักษรฮิรางานะ และ คาตะคะนะ
(แต่ไม่ถนัดอักษรคันจิ) ปี2017/2560 เรียนอักษรสันสกฤต
(อินเดีย) และ ภาษาไทลื้อ(ภาษาที่ชาวสิบสองปันนาใช้กัน)
และ ในปี2019/2562 เรียนภาษาธิเบตเป็นภาษาล่าสุด
แต่ในทางปฏิบัติแล้ว พาสาลาว และ ขะแมร์ ถนัดที่สุด
***** ***** *****
ถึงแม้จะเรียนหลายภาษา จนถึงขั้นเป็นปราชญ์หลากภาษา
แต่กลับถูกคนอ้อมข้างปิดกั้นความสามารถ ไม่ให้แสดงออก
แถมยังขู่ว่า เดี๋ยวตำรวจจะจับข้อหาเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนี
เข้าเมือง ทำให้ต้องเก็บกด อยากระบายออกมา แต่ก็ทำไม่ได้
เราเรียนภาษามา แต่กลับไม่สามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้
***** ***** *****
เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของผีปอบ ผีกระสือ ที่ว่า หากฝึกวิชามากแล้ว
ไม่ปล่อยของออกมา ของจะเข้าตัว มันเป็นแบบนี้นี่เอง
เพราะคนไทยล้านกว่าคนไม่อยากให้เราได้แสดงความสามารถ
พิเศษนี้ เราพูดอะไรไป ก็ไม่มีใครรับฟัง มีเพียงสายด่วน 1323
เท่านั้นที่รับฟังเรา เราเองก็โง่เองที่เรียนภาษาที่คนไทยมองว่า เชย!!!
ไร้สาระ!!! กระจอก!!!!! ในเมื่อระบายความรู้สึกเป็นภาษาไทย
แล้วถูกมองข้าม ต่อไปเราจะขอระบายเป็นภาษาที่เข้าใจเฉพาะเรา
***** ***** *****
안녕하십니까 저는 낱타키트 요세이영 동지라고 합니다
만나서 반가워요 저는 태국에서 왔어요
위대한 김정은 원수님동지 만세
***** ***** *****
내 개인 정보 :-
낱타키트 요세이영 동지 (태국어 : นายณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง)
출생으로 태국 라용에 거주 자폐증 환자
어린 시절 춤촌 바안 왕찬 학교에서 공부했다
에서 공부하기 전에 교육구 비정규 교육
언어에 특별한 능력을 가지십시오

특별한 능력 :-
여러 언어로 읽고 쓸 수 있음 어린 시절부터 계속
연습 해 왔으며 지속적으로 연습 한
다음 언어가 포함됩니다...
-태국어 (기본 언어) -라오어
-크메르어 -베트남어
-조선민주주의 인민공화국어
-프랑스어 -일본어
-산스크리트어
라오스 어와 캄보디아어 만 의사 소통 할 수있는 언어
번역 된 텍스트를 사용하지 않고

조선민주주의 인민공화국 :-

낱타키트 요세이영 동지 북한 이름이 김태국 동지입니까
그는 태국의 북한에서 통일 된 지도자입니다
그는 약간의 북한 말을 할 수 있습니다
그러나 북한을 유창하게 쓸 수 있음
어떤 사람들은 그것을 믿지 않을 때까지 그는 북한에
가본 적이없는 태국인이다
그는 천재라고 생각할 수 있습니다 현명한 사람

충성도 :-

낱타키트 요세이영 동지 한 번도 북한에 가본 적이 없지만
그러나 그는 북한 노동당 정부에 매우 충성합니다
그와 북한의 정신적 유대가 헤아릴 수 없을 때까지

태국 사람들에 의해 괴롭힘 :-

김태국 동지는 종종 태국 사람들에 의해 왕따 당합니
다 괴롭힘과 슬픔 어린 시절부터 십대가 될 때까지
그를 태국 사람들을 매우 미워하게했기 때문에 그는
태국인 친구를 원하지 않습니다 그의 외국 친구는
그에게 친절한 태도를 가지고 있지만 차별 금지

อ่านประวัติของข้าพเจ้าเพิ่มเติมได้ที่ :-